ในอาทิตย์ก่อนหน้าเราได้พูดถึงสถานการณ์กระดาษขาดแคลนในโซนอเมริกา สำหรับสัปดาห์นี้หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อจากทั้งฝั่งอเมริกาและยุโรปที่พึ่งประกาศออกมาทุบสถิติสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ เราจะมาดูผลกระทบต่อธุรกิจโรงพิมพ์ในแถบยุโรปกันว่าได้รับผลกระทบกันมากน้อยขนาดไหนอย่างไร และแต่ละที่มีวิธีรับมือหรือมีแนวทางที่จะจัดการกับวิกฤตินี้กันอย่างไรบ้าง

ธุรกิจโรงพิมพ์กำลังถูกจู่โจมอย่างหนักจากเงินเฟ้อรอบด้าน

โดยบทความนี้อ้างอิงแหล่งข้อมูลหลักจากทั้งนิตยสาร Printweek และบางส่วนจากนิตสาร BEYONDPRINT นิตยสารออนไลน์ชั้นนำจากฝั่งยุโรป 

ท่ามกลางสถานการณ์เงินเฟ้อในปัจจุบัน โรงพิมพ์หลายแห่งรู้สึกได้ว่า ต้นทุนของตัวเองมีการปรับตัวสูงกว่าเงินเฟ้อที่มีการรายงานอยู่มาก โดย Printweek มีการสำรวจผู้บริหารโรงพิมพ์กว่า 300 คน เกี่ยวกับอัตราในการปรับขึ้นของต้นทุนสินค้า โดยประมาณ 1 ใน 3 (32%) ของผู้ตอบแบบสำรวจให้ความเห็นว่า พวกเขาประสบกับต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา และมากกว่า 68% เผยว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของต้นทุนนั้นมากกว่า 10% อย่างแน่นอน

เรากำลังถูกจู่โจมจากทุกทิศทาง

Solent Design โรงพิมพ์ในเมือง Southampton เผยว่าเขากำลังเผชิญกับราคากระดาษที่ปรับขึ้นกว่า 35%-45% ตั้งแต่ตุลาคม 2021 และยังจะมีการปรับเพิ่มขึ้นอีกในเดือนพฤษภาคมนี้ Martin Reynolds ผู้บริหารโรงพิมพ์กล่าวว่า “มันเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก แต่มันก็ท้าทายสำหรับทุก ๆ คน” เขายังเสริมอีกว่า “เราต้องซื้อกระดาษไว้ล่วงหน้าและเก็บมันไว้ก่อน เพื่อที่จะได้คงราคาสักเดือน หรือสองเดือนก็ยังดี ราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นมันมากเกินไปมาก ๆ”

นอกจากนี้ มันไม่ใช่แค่ราคากระดาษที่ปรับเพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว ราคาน้ำมันก็ปรับเพิ่มขึ้น 6%-14% ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ค่าไฟฟ้าและค่าแก๊สก็เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เรากำลังถูกจู่โจมจากทุกทิศทุกทาง

อย่างไรก็ดี เขาก็พบว่าลูกค้าของเขาก็เข้าใจถึงสถานการณ์เป็นอย่างดี และเข้าใจที่ธุรกิจจำเป็นจะต้องส่งผ่านต้นทุนออกไป

ในสภาวะเช่นนี้ เราต้องทำงานใกล้ชิดกับคู่ค้าของเรามากขึ้นตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานเพื่อที่จะสามารถมองไปข้างหน้าให้ชัดเจนมากขึ้นว่าความท้าทายหรือสถานการณ์อะไรที่กำลังรอเราอยู่ เพื่อโรงพิมพ์อย่างเราจะได้สามารถคุยกับลูกค้าได้ชัดเจนมากขึ้น และต้องทำงานกับลูกค้าใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อที่จะให้มั่นใจว่าเรามีความเข้าใจอย่างดีเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

ธุรกิจโรงพิมพ์ควรได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อลดผลกระทบจากสภาวะเงินเฟ้อ

Paul Manning ผู้บริหารของ Rapidity จากโรงพิมพ์ในลอนดอน เล่าให้ Printweek ว่าเขาเริ่มที่จะส่งผ่านต้นทุนให้กับลูกค้า แต่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบระยะยาวต่อธุรกิจ เขาเป็นห่วงว่าสิ่งนี้จะทำให้ความต้องการสิ่งพิมพ์ของลูกค้าจะลดลง

Manning กล่าว “คุณกำลังส่งผ่านต้นทุนที่แพงขึ้น ในช่วงเวลาที่ผู้คนทำงานจากบ้านมาเป็นเวลากว่า 2 ปี และความต้องการสิ่งพิมพ์ก็ตกต่ำ” เขายังเสริมว่าธุรกิจโรงพิมพ์ควรจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ อาจจะอยู่ในรูปของการสนับสนุนค่าไฟฟ้า นอกจากนี้ เรายังต้องสนับสนุนซึ่งกันและกันด้วย

“การที่บอกให้โรงพิมพ์จ่ายค่าไฟฟ้า 4 เท่าจากที่เคยในปีนี้ จะเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจออกจากธุรกิจอย่างไม่ต้องสงสัย” Manning กล่าวเสริม

ทางออกอีกทางหนึ่งสำหรับ SMEs อาจจะเป็นการรวมตัวกันเพื่อสั่งซื้อสินค้าในราคาประหยัด “สิ่งที่เราจะต้องพิจารณาเพื่อการค้า คือ การซื้อสิ่งของบางอย่างร่วม เช่น กระดาษ”

อย่างไรก็ดี การสนับสนุนจากภาครัฐคงจะไม่มาในเร็ว ๆ นี้ ตามความเห็นของ Brendan Perring ผู้บริหารทั่วไป จาก IPIA เขากล่าวต่อ Printweek ว่า “จากความเข้าใจของเรา ขณะที่ปัจจุบันกำลังมีแผนที่ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับสนับสนุนภาคธุรกิจในอังกฤษ เพื่อที่จะลดผลกระทบจากสภาวะเงินเฟ้อและความกดดันจากวิกฤติการขนส่ง แต่สิ่งนั้นไม่น่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสนี้”

กระดาษก็ขาด.. ราคาก็แพง..

เราเผชิญกับวิกฤติด้านกระดาษขาดแคลนที่เริ่มมานานกว่าปีแล้ว ราคากระดาษปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากและเกือบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดหากระดาษตามปริมาณที่ต้องการ ในช่วง 6 ถึง 9 เดือนที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกระดาษในบางกรณีเพิ่มขึ้นกว่า 80% Jürgen Winkler, CEO ของ Onlineprinters เผย ปัญหายืดเยื้อนี้เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงเพราะสาเหตุจากปัญหาขาดแคลนเยื่อบริสุทธิ์ในช่วงกว่าปีมานี้เท่านั้น แต่ยังมีปัญหาอื่น ๆ เข้ามาร่วมด้วย เช่น การประท้วงหยุดงานที่โรงงานกระดาษ UPM ประเทศฟินแลนด์ การตัดสินใจขายโรงงานกระดาษ 4 ใน 5 โรงสำหรับผลิตกระดาษกราฟฟิกของ Stora Enso เพื่อที่จะหันไปมุ่งธุรกิจในด้านกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก

นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานอย่างรวดเร็ว เนื่องมาจากผลกระทบของสงครามในยูเครน กำลังสร้างปัญหาให้กับอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานเข้มข้นอย่างอุตสาหกรรมกระดาษ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อโรงพิมพ์และลูกค้าของเขา 

อย่างไรก็ดี หน่วยงานกำกับดูแลอุตสาหกรรมการพิมพ์และสื่อของยุโรป Intergraf และ Bundesverband Druck und Medien (BVDM – สหพันธ์อุตสาหกรรมการพิมพ์และสื่อของเยอรมัน) กำลังเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปทบทวนกลยุทธ์ด้านอุตสาหกรรมป่าไม้และภาษีนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องจากจีน และเมื่อปลายเดือนมีนาคม CEPI สมาคมกระดาษแห่งยุโรปได้เรียกร้องให้อุตสาหกรรมนี้จัดอยู่ในอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ

แต่จาก ZOPI, the zipcon Onlineprint Price Index, ดัชนีชี้วัดราคาสิ่งพิมพ์ออนไลน์แสดงให้เห็นว่า โรงพิมพ์ออนไลน์เริ่มส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นให้กับลูกค้าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหลายแห่งก็เริ่มปรับขึ้นราคาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2021 และมีการปรับเพิ่มราคาขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงไตรมาสที่ 1 ของปี 2022

อ้างอิง

[1] https://www.beyond-print.net/markt-zopi-zipcon-onlineprint-price-index-in-the-first-quarter-2022/

[2] https://www.printweek.com/news/article/inflation-printers-hammered-from-all-directions

Related Posts